วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Seven Samurai 1954
Seven Samurai 1954
กำกับ Akira Kurosawa
สร้าง Sojiro Motoki
เขียนบท Akira Kurosawa, Shinobu Hashimoto, Hideo Oguni
ดนตรี Fumio Hayasaka
ถ่ายภาพ Asakazu Nakai
ตัดต่อ Akira Kurosawa
เวลา 207 min.
ประเทศ Japan
ภาษา Japanese
แนว drama action
Cast
Takashi Shimura ... Kambei Shimada
Toshirô Mifune ... Kikuchiyo
Yoshio Inaba ... Gorobei Katayama
Seiji Miyaguchi ... Kyuzo
Minoru Chiaki ... Heihachi Hayashida
Daisuke Katô ... Shichiroji
Isao Kimura ... Katsushiro Okamoto
Keiko Tsushima ... Shino
Yukiko Shimazaki ... Rikichi's Wife
Kamatari Fujiwara ... Manzo, father of Shino
Yoshio Kosugi ... Mosuke
Bokuzen Hidari ... Yohei
Yoshio Tsuchiya ... Rikichi
Kokuten Kodo ... Gisaku, the Old Man
Takuzo Kumagaya ... Peasant (as Jiro Kumagai)
มีคนเปรียบอภิมหาผู้กำกับชาวอาทิตย์อุทัย Akira Kurosawa คือ "John Ford แห่งตะวันออก"
หากจะให้เดา Kurosawa อาจไม่ปฏิเสธสมญานี้ เพราะความคลั่งไคล้ในตัวผู้กำกับ John Ford น่าจะมีส่วนทำให้หนังของเขาเต็มไปด้วยมีกลิ่นอายของตะวันตก
ความคิดที่กล่าวมาข้างต้น อาจใช้อธิบายว่า ทำไมหนังซามูไรหลายเรื่องของ Kurosawa ถูกแปลงเป็นหนังเคาบอยตะวันตกอย่างง่ายดาย Rashomon (1950) ถูกฮอลลีวู้ดเอาไปทำเป็นหนังเคาบอยชื่อ The Outrage (1964) พระเอก Paul Newman รับบทโจรร้าย บทเดียวกับที่ Toshiro Mifune แสดงในหนังญี่ปุ่นต้นฉบับ
หนังซามูไร Yojimbo (1961) ถูกผู้กำกับ Sergio Leone นำมาสร้างใหม่เป็นหนังเคาบอยมะกะโรนี A Fistful of Dollars (1965) เรื่องแรกในชุดไตรภาค The Dollars Trilogy ที่สร้างชื่อให้กับพระเอก Clint Eastwood จากบทเคาบอยนิรนาม (man with no name)
แต่ในบรรดาหนังฮอลลีวู้ดที่สร้างจากหนังต้นฉบับของ Kurosawa มีแค่ The Magnificent Seven (1961) เรื่องเดียวที่เข้าข่ายประสบความสำเร็จมากที่สุด The Magnificent Seven ดัดแปลงมาจาก Seven Samurai หนังซามูไรยิ่งใหญ่ระดับ epic
พล็อตของ Seven Samurai ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ใช้ญี่ปุ่นศตวรรษที่ 16 เป็นฉาก เหตุเกิดที่หมู่บ้านกลางป่าที่ถูกโจรร้ายปล้นหลังเก็บเกี่ยวทุกปี ความยากแค้นทำให้ชาวบ้านบางคนอดรนทนไม่ได้ อยากลุกขึ้นสู้ แต่เพราะไร้ความสามารถทางการรบ จึงบากหน้าไปหาซามูไรมาสู้แทน
แต่เดิมเริ่มแรก Kurosawa คิดอยากทำหนังที่บรรยายถึงชีวิตของซามูไรคนหนึ่งภายในช่วงเวลาหนึ่งวัน เริ่มจากตื่นนอนและจบลงด้วยการคว้านท้องตัวเองเพื่อรักษาเกียรติ แต่หลังจากศึกษารอบด้าน Kurosawa พบว่ามีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะทำหนังที่ว่า ก็เลยเปลี่ยนใจ แล้วก็ให้บังเอิญที่ Kurosawa ได้อ่านบทความเรื่องเกี่ยวกับชาวนาจ้างซามูไรมาปกป้องหมู่บ้าน เขาเห็นเข้าท่า ก็เลยเอาความคิดนี้มาผูกเรื่อง Kurosawa สร้างตัวละครสำคัญที่มีบทพูดในด้านลึก ลงรายละเอียดถึงขนาดคนเหล่านี้แต่งตัวอย่างไร ชอบกินอะไร มีปูมหลังอย่างไร นิสัยใจคอเป็นอย่างไร และอีกสารพัดรายละเอียดที่คิดออก วิธีการนี้ยังไม่เคยมีผู้กำกับหนังญี่ปุ่นคนไหนทำมาก่อน
ภายใต้พล็อตที่แสนเรียบง่ายของ Seven Samurai หนังกลับสะท้อนภาพสังคมญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามในแง่มุมหลากหลายมิติ แม้จะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น แต่เหตุการณ์ในหนังตั้งบนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ช่วงศตวรรษที่ 16 ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 1587-1588 ญี่ปุ่นตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด เพราะสงครามรบพุ่งแย่งชิงอำนาจในหมู่ซามูไรตระกูลใหญ่ผู้ครอบครองปราสาท ผลพวงที่ตามมาคือโรนิน (Ronin) ซามูไรไร้นาย
ซามูไรคือทหาร แลกชีวิตในการรบกับการอุปถัมภ์ค้ำชูของชายซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองปราสาท หากนายเสียชีวิต ซามูไรที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ยอมเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย เต็มใจเปลี่ยนสภาพจากซามูไรเป็นโรนิน พเนจรไปทั่วทุกสารทิศ หาเลี้ยงชีพด้วยความสามารถเดียวที่มี คือการใช้อาวุธผลาญชีวิตผู้คน
แม้ Kurosawa จะสืบตระกูลจากซามูไรเก่า แต่เขาก็มองภาพซามูไรตามความเป็นจริง ซามูไรมีทั้งที่เก่งแต่ปากกับเก่งตัวจริง มีทั้งที่ชอบใช้อำนาจรังแกผู้อื่นกับที่กล้าสละชีวิตช่วยผู้ที่ถูกอำนาจ เถื่อนรังแก
Kambei Shimada หัวหน้ากลุ่ม 7 เซียนซามูไรคือตัวแทนของซามูไรที่แม้จะผ่านร้อนหนาวนับไม่ถ้วนแต่ก็ยังยึด มั่นในคุณธรรม หลังตระหนักชัดแจ้งว่า ข้าวคือสิ่งที่มีค่าอย่างเดียวในชีวิตชาวนา เป็นค่าจ้างที่ประเมินคุณค่าไม่ได้ Kambei เป็นคนแรกที่ยอมแลกชีวิตกับค่าจ้างแค่ข้าววันละ 3 มื้อที่ชาวนาเสนอให้
ช่วงเปิดตัว Kambei หนังแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของซามูไรคนนี้ เขายอมโกนหัว ปลอมตัวเป็นพระ เพื่อช่วยลูกชาวนาที่ถูกโจรจับเป็นตัวประกัน ตามธรรมเนียมซามูไร การโกนหัวถือเป็นเรื่องใหญ่ แทนความหมาย 2 นัย ถ้าไม่ใช่การทิ้งทางโลกย์เพื่อไปสู่ทางธรรม ซามูไรโกนหัวคือผู้ที่ถูกลงโทษขั้นรุนแรง ถูกอัปเปหิจากความเป็นซามูไร
หลังช่วยชีวิตเด็กสำเร็จ Kambei เดินจากสถานที่เกิดเหตุเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Kyuzo ซามูไรร่างเล็ก ไอ้เสือยิ้มยาก แต่เพลงดาบเฉียบขาด เก่งกาจกว่าพรรคพวกทั้ง 6 คน คือบุรุษผู้เข้าถึงจิตวิญญาณแท้จริงของซามูไร เงียบขรึม รักสันโดษ ถ่อมตน ฝึกฝนฝีมือจนบรรลุขีดสูงสุด เป็นนักฆ่าที่ชอบหลีกเลี่ยงการฆ่าหากสามารถ
ถ้าครึ่งแรกเป็นการนำเสนอภาพของซามูไร ครึ่งเรื่องหลัง ก็คือการนำเสนอภาพของชาวนา
ก้าวเท้าแรกที่มาถึงหมู่บ้าน ซามูไรทั้งเจ็ดพบแต่ความว่างเปล่า ชาวบ้านปฏิบัติตัวกับซามูไรไม่ต่างกับโจร ต่างแอบซ่อนตัวเพราะกลัวอันตราย
ซามูไรทั้งเจ็ดเริ่มวางแผนการรับมือกลุ่มโจร ฝึกฝนชาวนาให้รู้จักการรบ ความสัมพันธ์ระหว่างซามูไรกับชาวนาพัฒนาในทางที่ดี จนกระทั่งวันหนึ่ง Kikuchiyo หนึ่งในเจ็ดซามูไรขนเกราะ ดาบ สารพัดอาวุธยุทโธปกรณ์มาให้พรรคพวกใช้หวังเอาใจ โดยหารู้ไม่ว่า การกระทำนั้นสร้างความโกรธแค้นให้กับเหล่าซามูไรแท้ ขนาดคิดฆ่าทิ้งชาวนาทั้งหมู่บ้าน เพราะทั้งเกราะและดาบที่เห็น ล้วนถูกแย่งชิงจากซามูไรบาดเจ็บ และหลายคนในนั้นอาจถูกชาวนาฆ่า!!
แต่ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลาย Kikuchiyo ลูกชาวนาที่พ่อแม่ถูกโจรฆ่าตายเปิดอีกมุมมองให้กับเหล่าซามูไร เขายอมรับว่าชาวนาไม่ใช่คนดี โกหก เจ้าเล่ห์ ไว้ใจไม่ได้ เวลาถูกถามว่ามีข้าวหรือเปล่า ชาวนาจะตอบว่าไม่มี แต่ความจริงแอบซ่อนไว้ เวลามีสงคราม ชาวนาจะเหลาไม้ไผ่ปลายแหลมเตรียมล่าซามูไรที่บาดเจ็บป้องกันตัวเองไม่ได้ แต่คนที่ทำให้ชาวนาเป็นเช่นนี้ ก็คือพวกซามูไร ทุกครั้งที่มีสงคราม หมู่บ้านถูกเผา ทุ่งนาถูกเหยียบย่ำทำลาย อาหารถูกแย่งชิง ผู้หญิงถูกข่มขืน ผู้ชายถูกจับเป็นทาส ใครขัดขืนก็จะถูกซามูไรฆ่าทิ้ง เช่นนี้แล้ว ซามูไรกับโจรต่างกันตรงไหน!?
ผู้รู้วิเคราะห์ว่า ฉากนี้เป็นความต้องการส่วนตัวของ Kurosawa ที่ต้องการขอโทษแทนชนชั้นซามูไรที่นำประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามสร้างความ เดือดร้อนทุกข์ยากสาหัสกับชาวญี่ปุ่นนานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ร่วมสมัย (ขณะนั้น) สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน!
มนุษย์ไม่ว่าชนชั้นไหน มีทั้งดีและเลว นี่คือสิ่งที่ Kurosawa พูดเสมอในหนังของเขา
สุดท้าย Kikuchiyo ที่แม้เป็นลูกชาวนา แต่ก็เลือกตายอย่างซามูไรทรงเกียรติได้
Kurosawa ทำ Seven Samurai เป็นหนังที่ดูได้อย่างสนุกสนานไม่เบื่อ การสร้างตัวละครที่น่าสนใจ วิธีการคัดเลือกซามูไรของ Kambei การวางแผนรบอันแยบยล ฉากการรบแตกหักกลางฝนที่ตื่นเต้นเร้าใจ อารมณ์ขันที่แทรกตัวเป็นระยะ ช่วยสลับอารมณ์หนักเบาให้กับเรื่อง
เมื่อภารกิจลุล่วง ไม่มีที่ว่างในหมู่บ้านเหลือให้กับซามูไรที่รอดชีวิต "ซามูไรผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เหมือนสายลม" Kambei บอก "แผ่นดินคงอยู่ต่อไป ชาวนาก็จะยังอยู่คู่ผืนนาของพวกเขา"
อีกครั้งที่ Kambei เดินจากสถานที่เกิดเหตุเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รางวัลที่เขาได้คือความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง
ท้ายที่สุด ผู้ปราชัยคือซามูไร ชนชั้นที่ถูกกวาดตกขอบประวัติศาสตร์ ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีพลังใดทัดทาน
นี่อาจเป็นคำอธิบายว่า ทำไม Kurosawa เจาะจงให้ซามูไรตายด้วยกระสุนปืน...อาวุธสมัยใหม่...ที่ไม่รู้ยิงจากไหน แทนที่จะตายด้วยคมดาบ จากศัตรูที่อยู่ตรงหน้า!?
Kurosawa มีสไตล์การทำหนังของตัวเอง เขาให้ความสำคัญกับการตัดต่อ ใช้เลนส์ telephoto จับภาพใกล้ตัวละคร ใช้ภาพ slow-mo ในฉากต่อสู้ แบบที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครใช้มาก่อน
แม้ Seven Samurai จะเป็นหนังแอ็กชั่น แต่ก็งามพร้อมด้วยศิลปภาพยนตร์ หากมองจากมุมด้านเทคนิคที่นำมาใช้ในหนัง พูดได้เต็มปากว่า Kurosawa คือหนึ่งในปรมาจารย์ผู้วางรากฐานสำคัญให้กับคนทำหนังรุ่นใหม่ เขาได้รับการยอมรับนับถือสุดหัวใจจากผู้กำกับระดับบิ๊กของฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะเป็น George Lucas, Steven Spielberg, Martin Scorsese และ Francis Ford Coppola
ความที่เนื้อหาในหนังมีมากมาย ตัวละครเด่นฝ่ายซามูไรมีถึง 7 ตัว ไม่รวมตัวละครสำคัญฝ่ายชาวนาที่นับจำนวนแล้วไม่น้อยกว่ากัน อีกทั้งยังต้องยกกองไปถ่ายทำกันตามป่าเขาซึ่งเป็นโลเคชั่นจริง ทำให้ Seven Samurai กลายเป็นหนังทุนสร้างสูง ใช้เวลาถ่ายทำนานนับปีกว่าจะปิดกล้อง
ความที่งบสร้างบานปลายไม่มีท่าจะว่าจบตรงไหน ทำให้บริษัท Toho ผู้สร้างรู้สึกไม่แน่ใจในอนาคตของหนัง หลายครั้งถึงกับคิดเลิกสร้างกลางคัน เคยมีการโทรเลขไปถึง Kurosawa กลางป่า เรียกตัวกลับด่วน Kurosawa ตอบกลับโทรเลขฉบับนั้นว่า ทางเลือกของหนัง Seven Samurai มีให้เลือกแค่ 2 ทาง ถ้าไม่ไล่เขาออกจากตำแหน่งผู้กำกับ ก็ไม่ต้องมายุ่มย่ามการทำงานของเขาให้เสียอารมณ์
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม Toho ตกลงปล่อย Kurosawa ไว้ที่โลเคชั่นตามเดิม การตัดสินใจที่ถูกต้องครั้งสำคัญที่มีผลต่อคนทั้งโลก
เพราะมีเพียง Akira Kurosawa คนนี้นี่แหละ ที่ทำให้ Seven Samurai กลายเป็นผลงานหนังระดับ masterpiece จนกระทั่งทุกวันนี้
=============================
Seven Samurai~ : เจ็ดเซียนซามูไร
สร้างเมื่อปี ๑๙๕๔ .. นับเนื่องถึงปัจจุบัน ก็ครบรอบ ๕๓ ปีไปแล้ว ทว่า หนังขาว-ดำ เรื่องนี้ ยังคงคุณค่าอยู่เหนือกาลเวลา...
อากิระ คุโรซาว่า ถูกยกย่องให้เป็น "ปรมาจารย์ซามูไร" ทั้งที่สร้างหนังเกี่ยวกับ ซามูไรแท้ ๆ เพียง ๓ เรื่อง .. นั่นคือ เรื่องนี้ และ หนังชุด โยจิมโบ ซึ่งมีภาคสองคือ ซันจูโร่ ...
ตำนาน ของเจ็ดเซียนซามูไร เริ่มต้นขึ้นเมื่อ กลุ่มโจรเข้าปล้นหมู่บ้านชาวนาที่แสนยากจน ปล้นสะดมเอาข้าวที่เหล่าชาวนาทะนุถนอมมาเป็นแรมปี และยังฉุดคร่าหญิงสาวในหมู่บ้านไปบำเรอความสุข... ทั้งหมดทั้งมวล ยังความแค้นเคืองให้ชาวบ้านนำความไปปรึกษาท่านผู้เฒ่าประจำหมู่บ้าน เพื่อดัีบความทุกข์เข็ญของตน ท่านผู้เฒ่าแนะนำให้จ้าง "ซามูไร" มาเสีย ๔ - ๕ คน เพื่อมาปกป้องหมู่บ้านจากเหล่าโจรไพร ...ซามูไรที่อดอยากจากสงคราม ย่อมกระหายจะทำศึก แม้ผลตอบแทนเพียงข้าวแต่ละมื้อก็พอเป็นค่าจ้างได้ .. กล่าวดังนั้น ชาวบ้าน ๓ คนจึงมุ่งหน้าเข้ากรุงเพื่้อตามหา ซามูไร ที่ยอมรับงานนี้ แต่ความโหดร้ายของเมืองกรุง .. การควานหา ซามูไรที่แท้จริง นั้นยากยิ่งกว่าการรักษาข้าวที่พวกเขาหอบหิ้วมาด้วยซ้ำ ... ซามูไรกินฟรี ผ่านมาฟังข้อเสนอและผ่านไปพร้อมกับท้องที่อิ่มจากข้าวของพวกเขา แต่ไม่มีสักคนที่จะตอบรับข้อเสนออันแสนรันทดนี้.. จนกระทั่ง ความบังเอิญชักนำให้ชาวบ้านทั้ง ๓ ไปประสบกับเหตุการณ์ช่วยเหลือตัวประกันของซามูไรท่านนึง ที่ยอมกระทั่งโกนหัวเพื่อปลอมเป็นพระ .. ล่อลวงคนร้ายให้ตายใจ ก่อนจะสังหารอย่างฉับไวเพื่อช่วยเหลือเด็กทารกตัวประกันไว้อย่างปลอดภัย ... และ นามของซามูไร ผู้นั้น คือ คัมเบอิ ซึ่งกลายเป็น ซามูไร ผู้นำที่ร่วมเสาะหา ซามูไร ที่ยอมร่วมหัวจมท้ายกับเขาในการปกป้องหมู่บ้านชาวนา จนกระทั่งพบความจริงอันน่าตกตะลึง และนำไปสู่การต่อสู้อันแสนดุเดือดระหว่าง ซามูไรทั้งเจ็ด กับ โจรไพรเหยียบร้อยคน...
คุโรซาว่า สร้าง ตัวละคร ซามูไรทั้งเจ็ด จากบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้น ซามูไรเก๊ ที่แสดงโดย โตชิโร มิฟูเน่ ดาราคู่บุญ ที่ออกมาขโมยซีนได้ตลอด .. ซึ่งเรื่องนี้ เขารับบทบาทที่ตรงข้ามกับ บทบาทใน โยจิมโบ โดยสิ้นเชิง .. มิฟูเน่ เป็นซามูไรหนุ่มที่ไร้ประสบการณ์ แต่กระหายจะเข้าร่วมกลุ่มเจ็ดเซียนดังกล่าว กระทั่งการปั้นเรื่องให้ตนเป็นซามูไรที่เก่งกล้านั้น ก็เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว การแสดงความเก่งกล้าจนเข้าขั้นบ้าระห่ำนั้น มิฟูเน่ แสดงได้อย่างไม่มีที่ติ และทำให้เราทั้งรักทั้งชังตัวละครนี้ ... กระทั่งสุดท้าย เราเองก็ยินดีไปกับความสำเร็จของตัวละครนี้ ที่ท้ายที่สุดก็ถูกขนานนามเป็น ซามูไำรที่แท้จริง
อีกคนที่น่าจดจำ เพราะบทส่งเหลือเกินและยังเป็นตัวเดินเรื่องที่สำคัญ นั่นคือ บท คัมเบอิ ซามูไรหัวหน้ากลุ่มเจ็ดเซียน รับบทโดย ทากาชิ ชิมุระ ดาราขาประจำอีกคนของ คุโรซาว่า .. ชิมุระ สร้างความแตกต่างระหว่าง ซามูไำรที่แท้จริง กับ ซามูไรเก๊ ของ มิฟุเน่ ได้อย่างเด่นชัด ยิ่งเมื่อเข้าฉากร่วมกันเมื่อใด เราก็ยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่างสองตัวละครนี้ชัดเจน ทว่า ในความต่างนั้น ทั้งสองตัวละครก็เป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนกันและกันอยู่ กระทั่งเมื่อหนังเดินมาถึงช่วงท้าย ตัวละครของ มิฟุเน่ ก็เติบโตกลายเป็น ซามูไร ในเส้นทางที่ ตัวละครของ ชิมุระ แสดงให้เขาเห็นตลอดทั้งเรื่อง ...
แม้ หนังจะถูกจัีดให้เป็นหนึ่งในหนังแอคชั่นที่เยี่ยมยุทธที่สุดเรื่องนึง แต่เนื้อแท้หนังกลับมุ่งประเด็นโจมตีช่องว่างระหว่าง ศักดินาและชาวนา อย่างชัดเจน เพราะ ซามูไร คือผู้รับใช้ระบบศักดินาอย่างแท้จริง กระทั่ง ระบบดังกล่าวในปัจจุบันถูกแปรเปลี่ยนจากการรับใช้ผู้มีอำนาจทางการเมือง เป็นผู้มีอำนาจทางการเงินแทนแล้ว ซามูไรรับจ้างเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ หากแต่แปรเปลี่ยนสถานะเป็นอื่นแทน มิใช่ ซามูไร ที่ถือดาบเดินก๋าอยู่ในเมืองเช่นแต่เก่าก่อน .. นักรบที่ต่อสู้เพื่อชาวนาตอบแทนข้าวที่ปลูกให้กิน จึงเป็นนักรบในอุดมคติ ที่คุโรซาว่า อยากจะเห็นในปัจจุบัน ...
หากนาที่ชาวนาเฝ้าทะนุถนอม ถูกทอดทิ้งให้รกร้าง ... ผู้เดือดร้อนที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรา ๆ ที่ต้องคอยพึุ่งบุญชาวนาที่ปลูกข้าวให้เรากินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ..และที่จะได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ก็คงจะหนีไม่พ้นชนชั้นปกครอง ที่ต้องการแรงสนับสนุนจากทุกหน่วยในสังคม ... ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ..
แต่หากเหล่าผู้มีอำนาจปกครอง ทอดทิ้งชาวนา เมื่อใด ...
ความชิบหายก็คงจะมาเยือนในไม่ช้า ...
สิ่งที่ซามูไรทั้งเจ็ดปกป้อง จึงมิใช่นาข้าวที่สุกเต็มรวง ...
แต่เป็น "ชาวนา" ที่คอยทะนุถนอมปลูกข้าวจากเมล็ดสู่รวงที่ทอแสงเหลืองประกายเต็มทุ่งยามหน้าเก็บเกีั่ยวนั่นเอง ...
(Seven Samurai 1954 (Criterion Collection)
_____________________________
Sampan Chanpa
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น