วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ิิ'' BRAM STOKER - COUNT DRACULA ''


                                        BRAM STOKER - COUNT DRACULA

                                                         
     ท่านผูอ่านเคยได้ยินชื่อ Vlad the Impalor บ้างไหมเอ่ย ?  ถ้าเปล่าเคย  ก็มิต้องเป็นกังวล  ค่อย ๆ อ่านไปแล้วท่านก็ย่อมจะถึงบางอ้อเองครับ  Vlad the Impalor หรือวลัดจอมนักเสียบ  เป็นเจ้าผู้ครองนครที่มีชื่อเกือบจะเป็นไทย ๆ คือชื่อนครวัลลาชัย  เมื่อห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว  ลือกันว่าเจ้าหลวงเมือง วัลลาชัย ตนนี้ท่านอำมหิตโหดเหี้ยมผิดผู้คน  บรรดาประชาราษฎร์ที่อยู่ในบังคับ  หรือแม้แต่ผู้ใกล้ชิดของท่าน  ลงได้กระทำความผิดแล้วโทษทันณฑ์ที่ได้รับก็มีสถานเดียว  คือเอาตัวไปเสียบประจาน  ครั้นเสียบมาก ๆ เข้า คือเสียบกันร่วมแสน ๆ คิดเป็นร้อยละก็ร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้คนพลเมือง  เจ้าโหดตนนี้ก็เลยได้รับการการขนานนามว่า The Impalor - จอมนักเีสียบ

                                                           เบลลา  ลูโกซี่
    ในสมัยที่เจ้าหลวงวลัด ตนนี้นั่งเมือง  คือในสมัยคริสตศตวรรษที่สิบสีตอนปลาย ๆ นครวัลลาชัยเป็นหัวเมืองเอกของแคว้นทรานซิลเวเนีย  ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรูมาเนียปัจจุบัน  เจ้าหลวงวลันมีปราสาทใหญ่อยู่ในหุบเขาคาร์เปเธียน  ทางพรมแดนด้านเหนือเขตติดต่อกับแคว้นยูเครนของสหภาพโซเวียต  เมื่อยังมีชีวิตอยู่เจ้าหลวงวลันท่านมีชื่อเรียกขานกันลับหลังอยู่อีกชื่อหนึ่งคือ  ชื่อ  "ราชบุตรของยมบาล"


     คำว่าราชบุตรยมบาล  ถ้าออกสำเนียงฮังกาเรียนอันเป็นภาษาถิ่นของชาวแคว้นทรานซิลเวเนียให้ฟังกันชัด ๆแล้วท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่านก็ต้องร้องอ๋อยาว ๆ  ออกมาด้วยความซึมทราบทันที่  ราชบุตรของยมบาลนั้น  ชาวแคว้นทรานซิลเวเนียเขาเรียกกันว่า


      แดร็กคิวล่า !! ปีนี้เป็นปีที่หนึ่งร้อยถ้วน ๆ ที่มีผู้ปลุกเอาผีดิบแดร็กคิวล่าให้ลุกขึ้นมาอาละวาด  ฉะนั้นข้ออนุญาตผู้อ่าน ขอทำบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบสักตอน  ท่านผู้อ่านครับ !!  คนหัวแหลมที่ไปปลุกผีดิบแดร็กคิวล่าขึ้นมาเขย่าขวัญชาวโลก  จนร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำไปอย่างรวดเร็วทันใจนั้น  เป็นเสมียนศาลเมืองดับบลิน ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เป็นคนไอริชชึ่อ แบรม ซะโต๊คเกอร์ แบรมก็เป็นคำย่อของชื่ออับบราแฮมตามแบบฉบับของชาวไอริช เมื่อเป็นเสมียนศาล  แบรมเคยร่วมไปกับคณะชันสูตรพลิกศพผู้ที่ถูกพวกกบฏลอบฆ่าตายเป็นเบื่อ  ได้เห็นเลือดเห็นเนื้อจนเคยชิน  ประกอบกับตอนนั้นนวนิยายขายดีเรื่องนักสืบเชอร์ลอคโฮมส์ กำลังมาแรง  แบรมซึ่งรักการอ่านการเขียนก็อยากจะเอาอย่างบ้าง จึงเอ่ยปากเพื่อนฝูงว่าอีกสักหน่อยเขาจะเขียนเรื่องสยองขวัญบ้าง  เขียนกันให้เลือดเปรอะหน้ากระดาษเลยที่เดียว  และพอบอกเพื่อนบอกฝูงได้ไม่นาน  แบรมก็ลาออกจากงานศาล  เดินทางเ้ข้าไปต่อสู้กับชีวิตที่แสนจะสับสนในกรุงลอนดอน  และไปได้งานที่โรงละครแห่งหนึ่ง  โรงละครแห่งนี้มีเซอร์เฮนรี่ เออร์วิง  ดาราที่มีชื่อเสียงเป็นหุ่นส่วนใหญ่  ขณะที่แบรมไปได้งานที่นั่น  โรงละครแห่งนั้นกำลังแสดงเรื่อง The flying Dutchman เรื่องลึกลับโลดโผนซึ่งมีเซอร์เฮนรี่ เออร์วิงแสดงเป็นตัวชูโรง 


     บุคลิกภาพของเซอร์เฮนรี่ เออร์วิงเป็นที่ติดตาตรึงใจของหนุ่มน้อยชาวไอริชคนนี้เป็นอย่างมาก  มากจนคิดว่าถ้าจะเขียนนวนิยายสยองขวัญเมื่อไหร่  ก็จะจำลองเอาแบบของเซอร์เฮนรี่มาเป็นบุคลิกของตัวเอกของนวนิยายเลือดเปรอะหน้ากระดาษของตน  ทั้งที่ตนเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเขียนไปในทำนองไหน  และให้ชื่อเรื่องว่าอะไร จนกระทั้ง  จนกระทั้งมีเวลาพอที่จะเข้า บาร์ได้ จึงพอจะมองเห็นช่องทาง คำว่าเข้าบาร์ของคนอังกฤษนั้นแปลว่าเข้าเรียนกฏหมายในสำนักสอนกฏหมายที่เรียกว่าอินน์ต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หลายอินน์ด้วยกัน  ไม่ใช่เข้าบาร์เหล้าหรือเข้าห้องกรง
                                                            คริสโตเฟอร์  ลี

     เมื่อเข้าเรียนกฏหมายแล้ว  แบรมก็ได้มีโอกาสสนิทสนมกับศาสตราจารย์ อาร์มินิอุส  แวมเบอรี่ นักวิชาการกฏหมายชาวฮังเกเรียน  ซึ่งได้รับเชิญให้มาสอนวิชากฏหมายเปรียบเทียบ  ศาสตราจารย์ อาร์มินิอุส  แวมเบอรี่ ก็คงจะเหมือนคนพลัดบ้านหลงเมืองทั่ว ๆ ไป  ซึ่งพอคิดถึงบ้านหนักเข้าก็อดเล่าเรื่องแปลก ๆ  ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของตนให้ผู้ใกล้ชิดฟังพอเป็นเครื่องระลึกถึงความหลัีง  และในคืนวันหนึ่งแบรมก็ได้รับฟังเรื่อง Vlad  the Impalor   จากปากของท่านศาสตราจารย์เอง  พอท่านศาสตราจารย์เล่าถึงชื่ออีกชื่อหนึ่งของ Vlad  the Impalor    คือชื่อ แดร็กคิวล่า แบรมก็บังเกิดความประทับใจ  พยายามฟังเรื่องราวของแดร็กคิวล่าตั้งแต่ต้นจนจบ  จบแล้วก็สารภาพกับศาสตราจารย์แวมเบอรี่ว่า  ตนเองตั้งใจจะเขียนนวนิยายสยองขวัญมานานแล้ว  แต่ยังหาชื่อเรื่องและหาเค้าโครงเรื่องไม่ได้เพิ่งจะมาได้วันนี้ พร้อมกันนั้นก็ได้ขอร้องให้ท่านศาสตราจารย์ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา  ซึ่งทางศาสตราจารย์แวมเบอรี่ก็ตอบตกลง  และก็ด้วยเหตุนี้   ในปีต่อมาคือปี ๑๘๘๗  นวนิยายสยองขวัญเรื่องแดร็กคิวล่าก็ปรากฏออกมาสู่สายตานักอ่าน



      บุคลิกของเคานท์  แดร็กคิวล่านั้นจำลองไปจากเซอร์เฮนรี่  เออร์วิง และศาสตราจารย์แวมเบอรี่ก็กลายเป็นศาสตราจารย์อับบราแฮมแวนเฮลลิงอย่างรู้กัน  หนังสือเรื่องแดร็กคิวล่าได้รับการตอนรับอย่างกว้างขวาง  มีการแปลเป็นภาษาต่างประเทศไม่ต่ำกว่า ๓๔ ภาษา      แบรม ซะโ๊ต๊กเกอร์นอนกินลิขสิทธิ์ค่าเรื่องจนถึงแก่กรรมในปี ๑๙๑๒   



     ต่อมาในปี ๑๙๒๗  เพื่อนสนิทคนหนึ่งของแบรม  ซะโต๊กเกอร์  ชื่อ  แฮมิลตัน ดีน เกิดมีความคิดขึ้นมาว่าเรื่อง สยองขัญเรื่องนี้  น่าจะมีการนำมาทำเป็นละครเรื่องใหญ่  จึงระดมหุ้นส่วนจัดการแสดงขึ้นที่โรงละครโคเวนท์การ์เดนท์  ตัวชูโรงคือตัวเคานท์แดร็กคิวล่านั้น  ตกลงให้เบลลา  ลูโกซี่  ดาราใหญ่สวมบทบาท  ลูโกซี่  มีเชื้อสายฮังเกเรียน  ฉะนั้นจึงรับบทบาทและออกสำเนียงเสียงพูดได้ซาบซึ้งถึงใจพระเดชพระคุณ  ในวันแสดงรอบปฐมทัศน์นั้นปรากฏว่ามีคนดูเป็นลมเอิ้กอ้ากไป  ๒๙ คนและคนดูอีกนางหนึ่งคลอดลูกก่อนกำหนดออกมาจนคาวเลือดไปทั่วโรงละคร  ในรอบต่อ ๆ มาจึงได้มีการจัดหมอจัดพยาบาลจากโรงพยาบาลควีนอะเลกซานดร้ามาเตรียมไว้คอยบำบัดรักษา  คนดูที่พาลเป็นลี้เป็นลม  ตรงหน้าโรงละคร มีป้ายประกาศหราว่าทางโรงละครไม่รับผิดชอบในกรณีที่คนดูเกิดมาช็อคหรือมาหัวใจวายตายในโรง  ละครเรื่องนี้ย้ายไปแสดงที่บรอดเวย์  นิวยอร์คในปีต่อมา


     และปีนั้นก็เ้ป็นปีทองของโรงถ่ายหนังฮอลีวู้ด  เป็นปีที่มีการถ่ายทำหนังพูดออกมาเสนอฉายให้คนดูเป็นครั้งแรก ( หมายเหตุ : หนังพูดเรื่องแรกคือหนังเรื่อง The Jass Singer ผลิตโดยบริษัทวอเนอร์  บราเดอร์ ) เมื่อแมวมองเห็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังประเภททำเงินทำทองชนิดดีหนึ่ง ลูโกซี่  ก็ถูกประมูลตัวด้วยเงินจำนวนมหาศาลให้ไปนำแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้เลยที่เดียว  ลูโกซี่ผูกขาดในการแสดงเป็นแดร็กคิวล่า หลายหน  จนถึงแก่กรรมในปี ๑๙๕๖ เล่ากันว่าชุดที่เจ้าภาพแต่งให้กับศพของลูโกซี่ในวันฝังนั้น  คือชุดเสื้อคลุมของเคานท์แดร็กคิวล่านั่เอง


         ในปี ค.ศ. ๑๙๕๘  คือสองปีหลังจากที่ลูโกซี่ถึงแก่กรรม  บรรดาผู้บริหารของกองถ่ายแฮมเมอร์  ฟิลด์  ของอังกฤษ เห็นว่าถ้าเลือกตัวเคานท์  แดร็กคิวล่าได้เหมาะเจะแล้ว  หนังเรื่องนี้ถ่ายทำอีกกี่ครั้ง ๆ  ก็ไม่มีวันขาดทุน  จึงได้มีการเสาะแสวงหาตัวผู้แสดงเข้าทำนองพลิกแผ่นดินหา  ผลสุดท้ายก็ตกลงได้  คริสโตเฟอร์  ลี นักกีฬาเอกที่สูงหกฟุตห้านิ้วมาแสดงเป็นตัวท่านเคานท์  แดร็กคิวล่า

                                                           คริสโตเฟอร์  ลี
       วิจารณ์กันว่าบทบาทของแดร็กคิวล่าที่สวมบทบาทโดย คริสโตเฟอร์  ลีนั้น  แพ้บทบาทของ เบลลา  ลูโกซี่  อย่างชนิดหายห่วง  คริสโตเฟอร์  ลี นั้นมีลักษณะละมุนละม่อมเหมือน ดักกลั้ส  แฟร์ แบ็งค์  ผู้พ่อ  ฉะนั้นแฟนแดร็กคิวล่า  โดยเฉพาะที่เป็นอิตถีเพศแทนที่จะเกรงกลัว  กลับขยับเข้าใกล้  วี้ดว้ายอยากให้แดร็กคิวล่าลี  กัดคอเพื่อสูบเลือด  ซึ่งก็เป็นทางทำมาหาได้ของผู้ผลิตไปในอีกรูปแบบหนึ่ง  สรุปแล้วเรื่องแดร็กคิวล่าของ  แบรม  ซะโต๊กเกอร์  ถ้านำมาถ่ายทำเป็นหนังเมื่อไหร่ ๆ แล้ว  ก็ไม่มีทางที่จะขาดทุนกำไร 


        ส่วนปัญหาว่าหนังเรื่องนี้จะเข้าฉายโรงไหน ๆ ในเมืองไทยนั้น ( ปีที่พูดถึงภาพยนต์เรื่องนี้เป็นปี ๒๕๓๑ ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ส่วนใหญ่ผมเองชมมาเกือบทุกเรื่องทุกตอน ใน ทีวี เป็นSeries. ผมก็ได้ชมตอนเด็ก ๆ ผมจำได้ เป็นภาพยนตร์ ขาวดำ ปัจจุบันพอจะหาชมใน Youtube ได้บ้างครับ) เรื่อง บานาบัส ใน ทีวี สีไว้ทุกข์ ครับ



                                                     _______________________                      สัมพันธ์  จันทร์ผา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น