ในหลวงกับบ็อบ โฮ้ป
ระหว่างสงครามเวียดนาม บ๊อบ โฮ้ป ดาราผู้มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก (เด็กรุ่นใหม่คงไม่รู้จัก ตลกใส่ไข่คนนี้ ) เดินทางมากรุงเทพฯ บ่อย ก่อนจะเลยไปร้องเพลงและเล่นตลกจี้เส้นกล่อมขวัญบรรดาทหาร จี. ไอ. ที่ต้องมาทนลำบากตรากตรำอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และห่างไกลญาติพี่น้องหลายหมื่นไมล์
ช่วงนั้นแหละมีอยู่วันหนึ่งที่ บ๊อบ โฮ้ป ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้นักแสดงผู้นี้เข้าไปร่วมโต๊ะเสวยในพระราชวังสวนจิตร
บ๊อบ โฮ้ปชอบเอาไปเล่าให้ใคร ๆ ฟังว่าเมื่อรับสั่งเชิญชวนให้เขาเข้าไปดินเนอร์ในวังเขาก็กราบทูลด้วยปลาบปลื้มว่า " ด้วยความยินดีและเป็นเกียรติยิ่งของข้าพระพุทธเจ้า....นับว่าเป็นพระมหากรุณาหาที่เปรียบมิได้ " หยุดไปสักครู่หนึ่ง บ๊อบ โฮ้ปก็กราบทูลต่อว่า "แต่อยากจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพาเพื่อนของข้าพระพุทธเจ้าเข้าไปด้วย" " เอาซี..." รับสั่งถามต่อว่า " เพื่อนของเราน่ะกี่คนละ"
"หกสิบเจ็ดคนพะย่ะค่ะ" บ๊อบ โฮ้ปกราบทูลตอบ ทำเอาทรงถอนหายใจยาวและลึก แต่แล้วก็ตัดกับดาราตลกเอกของโลกว่า "เรอะ.....มากันเถอะ.....พาเข้ามาให้หมดนั่นแหละ"
ตอนเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2511 นายบ๊อบ โฮ้ป เข้าเฝ้าทูลละอองธุลี พระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
อีกหลายปีต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสสหรัฐอเมริกาจึงทรงแจ้งข่าวนี้ไปให้ บ๊อบ โฮ้ปทราบว่า " ฉันกำลังจะผ่านไปทางแคลิฟอร์เนียนะ "
บ๊อบ โฮ้ปกราบทูลทางโทรศัพท์ด้วยความดีใจยิ่งว่า "โ้อ้โฮ ! วิเศษเลยพะย่ะค่ะ.....เราขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จเสวยดินเนอร์.....เราขอเป็นเจ้าภาพ.....โปรดอย่าทรงปฏิเสธ"
ในหลวงก็เลยรับสั่งไปทางโทรศัพท์ว่า " ฉันพาหกสิบเจ็ดคนของฉันไปด้วยนะ....."
"แฮ่.....แฮ่....." บ๊อบ โฮ้ปกราบทูลเสียงอ่อย ๆ ว่า " คิดด้วยเกล้าตกลงพะยะค่ะ"
เรื่องนี้คงจะไม่จริง หรือจริง ๑๐% อีก ๙๐% เป็นลูกเล่น ของ บ๊อบ โฮ้ป เพราะเขาเองเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปเล่าที่อเมริกา ก็เป็นธรรมดาจะต้องใส่ไข่กันมากหน่อย เพราะ บ๊อบ โฮ้ปขึ้นชื่อว่าเป็นนักใส่ไข่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ข้าราชการว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ทรงมีอารมณ์อย่างยอด มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมแอบได้ยินเขาเรากันคือ เรื่อง "แคบหมู" ผู้เล่าเรื่องนี้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซนต์
หลายปีมาแล้ว ที่ห้องเสวย ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการของเชียงใหม่และอธิบดีจากกรุงเทพ ฯ เข้าร่วมโต๊ะเสวยพระกระยาหารค่ำด้วยหกเจ็ดคน ทุกคนนั่งตัวแข็ง
เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยมีบุญได้ร่วมโต๊ะเสวยครั้งนี้เป็นครั้งแรก จะจับจะหยิบอะไรก็กลัวจะพลาด ต่างคอยเหลือบชำเลืองมองคนโน้นทีคนนี้ที อธิบดีจากกรุงเทพ ฯ ถูกมองมากกว่าเพื่อน อาศัยที่เคยเฝ้าแหนมาหลายหนแล้ว ทุกคนจึงคอยดู.....หวังจะยึดเป็นที่พึ่ง
อาหารบนโต๊ะเสวยค่ำวันนั้น มีแคบหมู ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของเมืองเชียงใหม่วางรวมอยู่ด้วยกับอาหารอื่น ๆ เช่น ปลาทอด เปรี้ยวหวาน และแกงจืด
ทุกคนไม่กล้าแตะแคบหมู เพราะกลัวว่าจะรับประทานไม่เรียบร้อย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเคยชอบเวลาอยู่ที่บ้านละก็แคบหมูนี่โปรดนักเชียว......แต่วันนี้ได้แต่นั่งมองกันตาปริบ ๆ
ทรงทราบดีว่าผู้ร่วมโต๊ะเสวยกำลังคิดอะไรอยู่ จึงทรงเอื้อมพระหัััตถ์ไปทรงหยิบแคบหมู แล้วก็ใส่พระโอษฐ์และเคี้ยวกรอบ ๆ พลางรับสังว่า " แคบหมูใหม่ ๆ นี้กรอบดี....ไม่ลองกันบ้างหรือ?"
พอได้ไฟเขียวเช่นนั้น อธิบดีก็ค่อยมีกำลังใจ หยิบมาเคี้ยวกร้วม ๆ บ้าง แล้วปลัดจังหวัดก็เอื้อมมือไปหยิบตามอีกคน
เรื่องนี้ปลัดจังหวัดเป็นคนเก็บมาเล่า ให้ลูกเมียฟังด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ท่านปลัดจังหวัดบอกอีกว่า "ในหลวงทรงมีฮิวเม่อร์มาก....ทรงรู้ดีว่าพวกเราไม่กล้าเอามือหยิบ....การที่จะกินแคบหมูนี่มันกินด้วยช้อนซ่อมลำบากจะตาย ย่อมอดซะดีกว่า......ทุกคนเลยไม่กล้าแตะเอาแต่ตักแกงจืดอยู่นั่นแล้ว วิดแล้ววิดอีก.....วิดเสียจนแห้งขอด.....
ไม่มีใครสักคนจะกล้าแตะแคบหมู ของชอบ........"
______________________
_______________________________
Sampan Chanpa
"หกสิบเจ็ดคนพะย่ะค่ะ" บ๊อบ โฮ้ปกราบทูลตอบ ทำเอาทรงถอนหายใจยาวและลึก แต่แล้วก็ตัดกับดาราตลกเอกของโลกว่า "เรอะ.....มากันเถอะ.....พาเข้ามาให้หมดนั่นแหละ"
ตอนเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2511 นายบ๊อบ โฮ้ป เข้าเฝ้าทูลละอองธุลี พระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
อีกหลายปีต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสสหรัฐอเมริกาจึงทรงแจ้งข่าวนี้ไปให้ บ๊อบ โฮ้ปทราบว่า " ฉันกำลังจะผ่านไปทางแคลิฟอร์เนียนะ "
บ๊อบ โฮ้ปกราบทูลทางโทรศัพท์ด้วยความดีใจยิ่งว่า "โ้อ้โฮ ! วิเศษเลยพะย่ะค่ะ.....เราขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จเสวยดินเนอร์.....เราขอเป็นเจ้าภาพ.....โปรดอย่าทรงปฏิเสธ"
ในหลวงก็เลยรับสั่งไปทางโทรศัพท์ว่า " ฉันพาหกสิบเจ็ดคนของฉันไปด้วยนะ....."
"แฮ่.....แฮ่....." บ๊อบ โฮ้ปกราบทูลเสียงอ่อย ๆ ว่า " คิดด้วยเกล้าตกลงพะยะค่ะ"
เรื่องนี้คงจะไม่จริง หรือจริง ๑๐% อีก ๙๐% เป็นลูกเล่น ของ บ๊อบ โฮ้ป เพราะเขาเองเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปเล่าที่อเมริกา ก็เป็นธรรมดาจะต้องใส่ไข่กันมากหน่อย เพราะ บ๊อบ โฮ้ปขึ้นชื่อว่าเป็นนักใส่ไข่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ข้าราชการว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ทรงมีอารมณ์อย่างยอด มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมแอบได้ยินเขาเรากันคือ เรื่อง "แคบหมู" ผู้เล่าเรื่องนี้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซนต์
หลายปีมาแล้ว ที่ห้องเสวย ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการของเชียงใหม่และอธิบดีจากกรุงเทพ ฯ เข้าร่วมโต๊ะเสวยพระกระยาหารค่ำด้วยหกเจ็ดคน ทุกคนนั่งตัวแข็ง
เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยมีบุญได้ร่วมโต๊ะเสวยครั้งนี้เป็นครั้งแรก จะจับจะหยิบอะไรก็กลัวจะพลาด ต่างคอยเหลือบชำเลืองมองคนโน้นทีคนนี้ที อธิบดีจากกรุงเทพ ฯ ถูกมองมากกว่าเพื่อน อาศัยที่เคยเฝ้าแหนมาหลายหนแล้ว ทุกคนจึงคอยดู.....หวังจะยึดเป็นที่พึ่ง
อาหารบนโต๊ะเสวยค่ำวันนั้น มีแคบหมู ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของเมืองเชียงใหม่วางรวมอยู่ด้วยกับอาหารอื่น ๆ เช่น ปลาทอด เปรี้ยวหวาน และแกงจืด
ทุกคนไม่กล้าแตะแคบหมู เพราะกลัวว่าจะรับประทานไม่เรียบร้อย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเคยชอบเวลาอยู่ที่บ้านละก็แคบหมูนี่โปรดนักเชียว......แต่วันนี้ได้แต่นั่งมองกันตาปริบ ๆ
ทรงทราบดีว่าผู้ร่วมโต๊ะเสวยกำลังคิดอะไรอยู่ จึงทรงเอื้อมพระหัััตถ์ไปทรงหยิบแคบหมู แล้วก็ใส่พระโอษฐ์และเคี้ยวกรอบ ๆ พลางรับสังว่า " แคบหมูใหม่ ๆ นี้กรอบดี....ไม่ลองกันบ้างหรือ?"
พอได้ไฟเขียวเช่นนั้น อธิบดีก็ค่อยมีกำลังใจ หยิบมาเคี้ยวกร้วม ๆ บ้าง แล้วปลัดจังหวัดก็เอื้อมมือไปหยิบตามอีกคน
เรื่องนี้ปลัดจังหวัดเป็นคนเก็บมาเล่า ให้ลูกเมียฟังด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ท่านปลัดจังหวัดบอกอีกว่า "ในหลวงทรงมีฮิวเม่อร์มาก....ทรงรู้ดีว่าพวกเราไม่กล้าเอามือหยิบ....การที่จะกินแคบหมูนี่มันกินด้วยช้อนซ่อมลำบากจะตาย ย่อมอดซะดีกว่า......ทุกคนเลยไม่กล้าแตะเอาแต่ตักแกงจืดอยู่นั่นแล้ว วิดแล้ววิดอีก.....วิดเสียจนแห้งขอด.....
ไม่มีใครสักคนจะกล้าแตะแคบหมู ของชอบ........"
______________________
ประวัติส่วนตัวของ HOPE (พิเศษ)
บ๊อบ โฮป (Bob Hope)
บ๊อบ โฮป (Bob Hope)
ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia
Keywords: cw105, USA, arts, movie, creativity, ศิลปะ, ความคิดสร้างสรรค์, comedian, ตลก
บ๊อบ โฮป (Bob Hope)
ภาพ Bob Hope ถ่ายที่บ้านของเขาในปี ค.ศ. 1986, โดย Allan Warren
เกิดBorn
| |
เสียชีวิตDied
|
July 27, 2003 (aged 100)
Toluca Lake, California, U.S. |
อาชีพOccupation
|
นักแสดง (Actor), ตลก (Comedian), นักประพันธ์ (Author)
|
ปีที่ทำงานYears active
|
1925–2001
|
คู่ครองSpouse
|
Grace Louise Troxell (m.1933)
Dolores Hope (1934–2003) |
เขาเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 2003เขาเป็นนักแสดงตลกชาวอเมริกัน (American comedian) เป็นนักแสดง (actor) ที่ปรากฏตัวใน vaudeville, ละคอนเวทีที่ Broadway, ทั้งในงานวิทยุ (radio) โทรทัศน์ (television) และภาพยนตร์ (movies) เขาทำงานให้กับกองทัพสหรัฐเพื่อไปแสดงสร้างขวัญและกำลังใจ ทั้งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และในกาปฏิบัติหน้าที่ของทหารอเมริกันในระยะต่อๆมา ในปี ค.ศ. 1996วุฒิสภาสหรัฐ (U.S. Congress) ได้มอบประกาศว่า เขาเป็น ทหารผ่านศึกกิตติมศักดิ์คนเดียวในกองทัพสหรัฐ ที่กล่าวดังนั้น เพราะเขาไม่ได้รับราชการเป็นทหารในหน่วยใดๆ แต่ได้ทำหน้าที่เป็นส่วนสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลของกองทัพอย่างเสมอมา เขาได้ร่วมไปในงานสร้างขวัญกำลังใจแก่กำลังพลในกองทัพถึง 199 ครั้ง
บ๊อบ โฮป เป็นตัวอย่างของนักแสดงที่มีอารมณ์ดี ไม่เครียด เมื่อเขาเป็นนักแสดงตลก เขาจะแสดงตลกด้วยความมีเชาว์วัยไหวพริบ ไม่หยาบคาย หรือตลกแบบใช้กำลัง เป็นสไตล์ที่คนดูหรือคนฟังได้นั่งอมยิ้ม หัวเราะสนุกสนานร่วมด้วยอย่างผ่อนคลาย เขาเป็นนักแสดงที่ทำงานด้านบันเทิงของเขาอย่างสม่ำเสมอ เขามีอายุยืนยาวถึง 100 ปี
เขาเป็นนักแสดงชั้นแนวหน้าที่ไม่ได้รับรางวัลออสก้า แต่ได้เป็นพิธีกรของการประกาศรางวัลถึง 18 ครั้ง (the Academy Awards ceremony) ในระหว่างปี ค.ศ. 1939 ถึง 1977 มากที่สุดกว่าใครๆ
_______________________________
Sampan Chanpa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น